เมนู

สัจจะทั้งหลายก็มาถึง ภิกษุย่อมรู้ว่า พระสูตรไปตามอนุสนธิ เมื่อพระสูตรเริ่ม
แต่การทะเลาะบาดหมางกัน เบื้องปลายสาราณียธรรมก็มาถึง เมื่อพระสูตร
เริ่มแต่ดิรัจฉานกถา 32 เบื้องปลายกถาวัตถุ 10 ก็มาถึง ภิกษุย่อมรู้ว่า พระ-
สูตรไปตามอนุสนธิ ดังนี้.
จบอรรถกถานิสันติสูตรที่ 9

10. ภัททชิสูตร


ว่าด้วยสิ่งที่เป็นยอด 5 ประการ


[170] สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ ณ โฆสิตาราม ใกล้กรุง-
โกสัมพี ครั้งนั้นแล ท่านพระภัททชิได้เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ ได้
ปราศรัยกับท่านพระอานนท์ ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว
จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระอานนท์ได้ถามท่านพระ-
ภัททชิว่า ดูก่อนอาวุโสภัททชิ บรรดาการเห็นทั้งหลาย การเห็นชนิดไหน
เป็นยอด บรรดาการได้ยินทั้งหลาย การได้ยินชนิดไหนเป็นยอด บรรดาสุข
ทั้งหลาย สุขชนิดไหนเป็นยอด บรรดาสัญญาทั้งหลาย สัญญาชนิดไหน
เป็นยอด บรรดาภพทั้งหลาย ภพชนิดไหนเป็นยอด.
ท่านพระภัททชิตอบว่า ดูก่อนอาวุโส พรหมผู้เป็นใหญ่ยิ่ง ไม่มี
ใครครอบงำได้ เห็นสิ่งทั้งปวง ยังผู้อื่นให้เป็นไปในอำนาจ มีอยู่ ผู้ใดเห็น
พรหมนั้น การเห็นของผู้นั้นเป็นยอดของการเห็นทั้งหลาย เทพเหล่าอาภัสสระ
ผู้เพรียบพร้อมด้วยความสุขมีอยู่ เทพเหล่านั้นย่อมเปล่งอุทานในการบางครั้ง
บางคราวว่า สุขหนอ ๆ ผู้ใดได้ยินเสียงนั้น การได้ยินเสียงของผู้นั้นเป็นยอด

ของการได้ยินทั้งหลาย เทพเหล่าสุภกิณหะมีอยู่ เทพเหล่านั้นยินดีเฉพาะสิ่งที่
มีอยู่ ย่อมเสวยสุข การเสวยสุขนี้เป็นยอดของความสุขทั้งหลาย พวกเทพผู้
เข้าถึงอากิญจัญญายตนภพมีอยู่ การเข้าถึงอากิญจัญญายตนภพนี้เป็นยอดของ
สัญญาทั้งหลาย พวกเทพผู้เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภพมีอยู่ การเข้าถึง
เนวสัญญานาสัญญายตนภพนี้เป็นยอดของภพทั้งหลาย.
อา. คำพูดของท่านภัททชินี้ย่อมเข้ากับชนเป็นอันมาก.
ภ. ท่านพระอานนท์เป็นพหูสูต ขอความข้อนั้นจงแจ่มแจ้งเฉพาะ
ท่านพระอานนท์เทียว.
อา. ดูก่อนอาวุโสภัททชิ ถ้าเช่นนั้น ท่านจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เรา
จักกล่าว ท่านพระภัททชิรับคำท่านพระอานนท์ว่า อย่างนั้น อาวุโส ท่าน
พระอานนท์ได้กล่าวว่า ดูก่อนอาวุโส ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ย่อมมี
ในลำดับแห่งบุคคลผู้เห็นตามเป็นจริง นี้เป็นยอดของการเห็นทั้งหลาย ความ
สิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายย่อมมีในลำดับแห่งบุคคลผู่ได้ยินตามเป็นจริง นี้เป็น
ยอดของการได้ยินทั้งหลาย ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ย่อมมีในลำดับแห่ง
บุคคลผู้ได้รับความสุขตามเป็นจริง นี้เป็นยอดของความสุขทั้งหลาย ความ
สิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ย่อมมีในลำดับแห่งบุคคลผู้มีสัญญาตามเป็นจริง
นี้เป็นยอดของสัญญาทั้งหลาย ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ย่อมมีในลำดับ
แห่งบุคคลผู้เป็นอยู่แล้วตามเป็นจริง นี้เป็นยอดของภพทั้งหลาย.
จบภัททชิสูตรที่ 10
จบอาฆาตวรรคที่ 2

อรรถกถาภัททชิสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในภัททชิสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อภิภู ได้แก่ ครอบงำตั้งอยู่ คือ เป็นใหญ่. บทว่า อนภิภูโต
ได้แก่ อันคนอื่นครอบงำมิได้. บทว่า อญฺญทตฺถุ เป็นนิบาต ใช้ในคำว่า
ส่วนเดียว. อธิบายว่า เห็นด้วยทัสสนะย่อมเห็นทั้งหมด บทว่า วสวตฺตี ได้แก่
ยังชนทั้งหมดให้อยู่ในอำนาจ. บทว่า ยถา ปสฺสโต ได้แก่ เห็นอาการของ
อารมณ์ไม่ว่าจะเป็นอิฏฐารมณ์หรืออนิฏฐารมณ์. บทว่า อนนฺตรา อาสวานํ
ขโย โหติ
ได้แก่ พระอรหัตย่อมเกิดขึ้นในลำดับนั่นเอง. แม้ในบทว่า ยถา
สุณโต
นี้ ก็นัยนี้เหมือนกัน. อีกอย่างหนึ่ง ภิกษุเห็นรูปอันใดด้วยจักษุแล้ว
เริ่มตั้งวิปัสสนาบรรลุรพระอรหัตในลำดับ ติดต่อกันนั่นแหละพระอรหัตของภิกษุ
นั้น ย่อมชื่อว่ามีในลำดับของจักขุวิญญาณ พระอานนทเถระหมายถึงพระอรหัต
นั้น จึงกล่าวว่า นี้เป็นยอดแห่งการเห็น. แม้ในบทที่สองก็นัยนี้เหมือนกัน.
บทว่า ยถา สุขิตสฺส ได้แก่ ถึงความสุขด้วยมรรคสุขใด. บทว่า
อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ ได้แก่ พระอรหัตย่อมเกิดขึ้นในลำดับ
แห่งมรรคสุขนั้นนั่นเอง. บทว่า อิทํ สุขานํ อคฺคํ ได้แก่ มรรคสุขนี้
เป็นยอดแห่งความสุขทั้งหลายะ. แม้ในบทว่า ยถา สญฺญิสฺส นี้ ท่านประสงค์
เอามรรคสัญญานั่นเอง. บทว่า ยถาภูตสฺส ได้แก่ ตั้งอยู่แล้วในภพใด คือ
ในอัตภาพใด. บทว่า อนนฺตรา ได้แก่ พระอรหัตเกิดขึ้นแล้วในลำดับ
นั่นเอง. บทว่า อิทํ ภวานํ อคฺคํ ได้แก่ อัตภาพสุดท้ายนี้ ชื่อว่าเป็น